ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
อย่างไร รถยกไฟฟ้าทุกพื้นที่ CDDH ปรับให้เข้ากับภูมิประเทศต่างๆ เพื่อรักษาการทำงานที่ราบรื่น?
1. การออกแบบยางรถ: รถยกไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในทุกพื้นที่ มักมียางแบบพิเศษ โดยทั่วไปยางเหล่านี้จะมีขนาดใหญ่กว่าและมีดอกยางที่ลึกกว่าเพื่อให้การยึดเกาะและความมั่นคงที่ดีขึ้นบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ รถยกบางรุ่นอาจมียางเติมลมหรือยางโฟมที่สามารถจัดการพื้นที่ขรุขระได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ระบบกันสะเทือน: ระบบกันสะเทือนที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรถยกไฟฟ้าสำหรับทุกพื้นที่ ช่วยดูดซับแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนเมื่อขับขี่บนพื้นผิวที่ไม่เรียบ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ควบคุมและความทนทานของอุปกรณ์ ระบบกันสะเทือนที่ออกแบบอย่างดียังช่วยรักษาเสถียรภาพในการบรรทุก
3. ระยะห่างจากพื้น: โดยทั่วไปแล้วรถยกสำหรับพื้นที่ทุกประเภทจะมีระยะห่างจากพื้นสูงกว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ติดหรือเสียหายบนพื้นที่ขรุขระ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อเคลื่อนที่ข้ามหิน ราก หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ
4. ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD): รถยกไฟฟ้าสำหรับทุกพื้นที่บางรุ่นมาพร้อมกับระบบ 4WD เพื่อให้แน่ใจว่ามีการกระจายพลังงานไปยังทุกล้อ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มการยึดเกาะและเสถียรภาพ ช่วยให้อุปกรณ์สามารถนำทางในภูมิประเทศที่ท้าทาย เช่น โคลน หิมะ หรือกรวด
5. โครงสร้างที่แข็งแกร่ง: รถยกไฟฟ้าสำหรับทุกพื้นที่มักถูกสร้างขึ้นด้วยโครงและส่วนประกอบที่แข็งแรงและทนทาน ช่วยให้ทนทานต่อสภาพภูมิประเทศที่ขรุขระและการใช้งานหนักได้
6. การควบคุมที่ราบรื่น: การควบคุมของผู้ปฏิบัติงานควรได้รับการออกแบบเพื่อให้เคลื่อนที่ได้ง่ายและแม่นยำ เนื่องจากภูมิประเทศที่ไม่เรียบอาจต้องใช้ความระมัดระวังในการจัดการ คุณสมบัติต่างๆ เช่น การควบคุมความเร็วแบบแปรผันและระบบบังคับเลี้ยวที่ตอบสนองช่วยให้การทำงานราบรื่น
7. เสถียรภาพในการบรรทุก: การรักษาเสถียรภาพในการบรรทุกถือเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ อุปกรณ์วางซ้อนขั้นสูงอาจมีเทคโนโลยีการปรับระดับน้ำหนักบรรทุกเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำหนักบรรทุกยังคงมีเสถียรภาพแม้ในภูมิประเทศที่เป็นหลุมเป็นบ่อ
8. เทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนได้: รถยกไฟฟ้าบางรุ่นอาจรวมเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น เซ็นเซอร์โหลดหรือระบบป้องกันการทิป เพื่อปรับพฤติกรรมของอุปกรณ์โดยอัตโนมัติเพื่อรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพในภูมิประเทศต่างๆ